จดหมายเปิดผนึก
เรียน ฯพณฯ ท่าน เอกอัครรัฐทูต โรเบิร์ต เอฟ. โกเด็ก
เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเฝ้าดูบริษัทเชฟรอนของสหรัฐอเมริกาและกลุ่ม ปตท. ของไทยที่จัดหาแหล่งรายได้ที่ใหญ่ที่สุดให้กับกองทัพเมียนมา รายได้เหล่านี้เป็นเงินทุนสนับสนุนการทำสงครามกับประชาชนชาวเมียนมาของคณะเผด็จการทหาร นับตั้งแต่การรัฐประหารเริ่มต้นขึ้น คณะเผด็จการทหารได้กระทำการอันโหดร้ายอย่างกว้างขวาง สังหารประชาชนกว่า 3,100 คน และควบคุมตัวประชาชนโดยพลการกว่า 20,000 คน ทำให้ประชาชนอย่างน้อย 1.1 ล้านคนต้องพลัดถิ่น อีกทั้งยังมีการเผาหมู่บ้าน และการโจมตีทางอากาศใส่พลเรือน ส่งผลให้ประชาชนราว 17.6 ล้านคนต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในขณะที่ประเทศเมียนมากำลังอยู่ในภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจ
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของกลุ่ม ปตท. คือกระทรวงการคลังของไทย และเป็นที่ทราบกันดีว่านโยบายของสหรัฐฯ ต่อประเทศไทยเป็นอุปสรรคสำคัญในการคว่ำบาตร บริษัทวิสาหกิจน้ำมันและก๊าซแห่งเมียนมา หรือ MOGE สิ่งนี้ทำให้เงินทุนมูลค่ามหาศาลถึง 3 พันล้านดอลลาร์เข้ากระเป๋ากองทัพซึ่งทำให้คณะเผด็จการทหารสามารถจัดหาเงินทุนเพื่อสร้างความโหดร้าย ขยายสงครามในเมียนมา บังคับให้ประชาชนต้องลี้ภัยเข้ามาในประเทศไทย และทำให้ประชาคมอาเซียนสั่นคลอน ดังนั้นเราจึงเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นเพื่อสนับสนุนกลุ่มประชาสังคมเมียนมาที่เรียกร้องให้ท่านที่ปรึกษาเดเร็ก โชเล็ต ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรที่เบี่ยงเบนรายได้จากก๊าซ
ภาคประชาสังคมได้แสดงให้เห็นหลายครั้งว่าบริษัทก๊าซข้ามชาติสามารถโอนรายได้จากก๊าซโดยไม่ต้องหยุดการผลิตก๊าซในเมียนมา สัญญาของ ปตท. อยู่กับรัฐบาลเมียนมา (ซึ่งเป็นตัวแทนของ MOGE ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ) ไม่ใช่กับคณะเผด็จการทหาร ทันทีที่ ปตท.รับทราบว่าคณะเผด็จการทหารไม่ใช่รัฐบาลที่ได้รับการยอมรับ ก็สามารถโอนเงินเข้าบัญชีดูแลผลประโยชน์คู่สัญญา (escrow account) ตามสัญญาได้โดยมีหรือไม่มีการลงโทษ การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ อาจผลักดันให้ ปตท. ทำในสิ่งที่ทำได้และควรทำเมื่อสองปีที่แล้ว นั่นคือการหันเหรายได้ที่เป็นของรัฐบาลเมียนมาก่อนที่จะถูกยึดอำนาจโดยคณะเผด็จการทหารที่ผิดกฎหมาย การปล่อยให้เงินเหล่านี้ดำเนินต่อไป นั่นเท่ากับว่าสหรัฐฯ กำลังเปิดทางให้กับทุนสนับสนุนของไทยแก่คณะเผด็จการทหารซึ่งเป็นการบ่อนทำลายประชาคมอาเซียน
ตรงกันข้ามกับที่คุณเคยบอกมา ประเทศไทยไม่ได้พึ่งพาก๊าซจากพม่า รัฐบาลไทยได้วางแผนไว้นานแล้วสำหรับการลดลงของก๊าซในเมียนมา เป็นเช่นนี้ในปี 2564 ยิ่งกว่านั้นหลังจากที่สถานีนำเข้าก๊าซเหลว หรือ LNG หนองแฟบเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายน 2565
การคว่ำบาตร MOGE นั้นไม่น่าจะส่งผลกระทบในทางลบต่อประเทศไทย คณะเผด็จการทหารไม่น่าจะตอบโต้การคว่ำบาตรด้วยการปิดแก๊ส เนื่องจากพวกเขาจำเป็นต้องรักษาเสบียงก๊าซในประเทศ – หากปิดการส่งออก ก็จะต้องหยุดการผลิตก๊าซภายในประเทศ ปิดโรงงาน ยับยั้งเครื่องจักรสงครามและก่อวินาศกรรมธุรกิจพวกพ้อง – และไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ อีกทั้งไม่สามารถทำลายความสัมพันธ์กับประเทศไทยในช่วงเวลาที่กำลังแสวงหาความชอบธรรมระหว่างประเทศอย่างสิ้นหวัง หากคณะเผด็จการทหารปิดการส่งออกแก๊สเพื่อตอบสนองต่อมาตรการคว่ำบาตร MOGE นี้ พวกเขาก็จะสูญเสียแหล่งรายได้ที่ใหญ่ที่สุดไป ซึ่งมีแต่จะทำให้ความขัดแย้งบริเวณชายแดนของเรายุติเร็วขึ้น
ในกรณีที่การส่งออกก๊าซถูกหยุดนั้นไม่น่าจะเป็นไปได้ ผลกระทบเพียงอย่างเดียวต่อประเทศไทยคือการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงาน การเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานนี้อาจไม่มากเท่าก่อนหน้านี้เนื่องจากราคา LNG ต่ำกว่าระดับสูงสุดของปี 2565 ลงไปมาก อย่างไรก็ตาม ราคาพลังงานในประเทศไทยก็สูงเกินจริงมานานแล้ว ภาคพลังงานของไทยประสบปัญหาการผลิตไฟฟ้าเกินกำลัง โดยมีปริมาณสำรอง 50% จากเป้าหมาย 15% การปฏิบัติที่ทุจริตทำให้เห็นว่าโรงไฟฟ้าถูกสร้างเพื่อให้ไม่มีการใช้งาน เนื่องจากเพิ่ม “ค่าความพร้อมจ่าย” ลงในใบเรียกเก็บเงิน แม้กระทั่งตอนนี้ รัฐบาลไทยก็ดูเหมือนจะปล่อยให้สิ่งนี้เลวร้ายลง เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ พยายามที่จะเพิ่มกำลังการผลิตส่วนเกินที่จำกัดเราไว้ในอนาคตของการพึ่งพา LNG หากรัฐบาลไทยกังวลเรื่องค่าไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบันก็ควรแก้ไขปัญหาไฟฟ้าเกินกำลังสำรองก่อน
ในขณะเดียวกัน ปตท. กำลังทำงานร่วมกับคณะเผด็จการทหารเมียนมาอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มการส่งออกและรายได้จากก๊าซให้ได้สูงสุด ปตท. อาจบอกคุณในสิ่งที่พวกเขาบอกกับนักลงทุนว่าพวกเขาไม่มีทางหยุดรายได้จากก๊าซเหล่านี้ลงได้ ปตท.ยังคงนำเข้าก๊าซได้ต่อไป ขณะที่ ปตท.สผ. สั่งเก็บรายได้ที่เป็นหนี้รัฐบาลพม่าเข้าบัญชีดูแลผลประโยชน์คู่สัญญา ปตท. อาจพยายามลดปริมาณการนำเข้าก๊าซจากพม่าให้เหลือขั้นต่ำตามสัญญาหรือต่ำกว่านั้น (เนื่องจากสัญญาดูเหมือนจะอนุญาตให้ทำได้หากซื้อมากกว่าขั้นต่ำในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา) แต่ต่อมาในปี 2565 ปตท. ก็ยังคงนำเข้าก๊าซจากเมียนมาในปริมาณที่สูงขึ้น
ความต้องการของ ปตท. เพื่อปกป้องผลกำไรของตนเองยิ่งทำให้ประชาชาวเมียนมาต้องขาดแคลนพลังงานซึ่งรายได้ส่วนนี้ถูกแปลงเป็นการสนับสนุนด้านเงินทุนให้กับคณะเผด็จการทหารเมียนมา ในทางกลับกัน ผลผลิตจากแหล่งยาดานาของเมียนมาเริ่มลดลงในช่วงต้นปี 2565 ดังนั้น เพื่อรักษาการส่งออกไปยังประเทศไทยและสนับสนุนเครื่องจักรสงครามของตน คณะเผด็จการทหารจะต้องลดอุปทานพลังงานในประเทศเมียนมาลง ขณะที่คณะเผด็จการทหารได้ดำเนินการตัดไฟในเขตพื้นที่ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศซึ่งนี่ก็น่าจะรับประกันได้ว่าไฟฟ้าและก๊าซจะไปถึงโรงงานที่ดำเนินการติดตั้งเครื่องจักรสงครามและเสริมสร้างพันธมิตรที่ใกล้ชิดของกองทัพ ขณะเดียวกัน ปตท. ตัดก๊าซจากแหล่งสุดท้ายจากโครงการยาดานา และปตท.สผ. กำลังระงับโครงการที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในอนาคตของเมียนมา
สองปีที่แล้ว เมื่อคณะเผด็จการทหารพม่าเริ่มทำรัฐประหาร บางทีรัฐบาลไทยคาดว่าคณะเผด็จการทหารจะสามารถรวมอำนาจได้โดยเร็ว แต่สิ่งนี้กลับไม่ได้เกิดขึ้น คณะเผด็จการทหารมีอำนาจจำกัดในบางส่วนของประเทศเท่านั้น ตามที่ผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติประจำเมียนมารายงาน คณะเผด็จการทหารไม่ได้อ้างสิทธิในความชอบธรรมและไม่มีการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ ชาวเมียนมาจะไม่ยอมให้สิ่งนี้เปลี่ยนแปลง ยิ่งสหรัฐฯ ลังเลที่จะคว่ำบาตร MOGE นานเท่าไรและเสนอแนะว่าการทำธุรกิจร่วมกับคณะเผด็จการทหารที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จะต้องถูกยอมรับ ความขัดแย้งนี้จะคงอยู่ต่อไปอีกนานเท่าไร
ขอขอบคุณที่ให้ความสนใจในเรื่องเร่งด่วนนี้ เรายินดีที่จะแบ่งปันข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณ กรุณาติดต่อเราได้ที่ etoswatch@gmail.com
รายนามองค์กรที่รับรองจดหมาย
- เครือข่ายประชาธิปไตยเอเชีย (Asia Democracy Network)
- Burma Concern
- มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน (Community Resources Center: CRC)
- กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (Democracy Restoration Group: DRG)
- กลุ่มการเมืองสิ่งแวดล้อม (Environmental Politics)
- คณะทำงานติดตามความรับผิดชอบการลงทุนข้ามพรมแดน (Extra – Territorial Obligation: ETOs Watch Coalition)
- กลุ่มเพื่อนต่อต้านเผด็จการ (Friends Against Dictatorship)
- เสมสิกขาลัย – เมียนมา (Spirit in Education Movement: SEM)
- คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตยในพม่า (Thai Action Committee for Democracy in Burma: TACDB)
- เครือข่ายสิทธิผู้ลี้ภัยและคนไร้รัฐ (The Coalition for the Rights of Refugee and Stateless: CRSP)
- กลุ่มเสรีภาพแม่น้ำโขง (The Mekong Butterfly)
0 comments on “11 ประชาสังคม ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงทูตสหรัฐฯ เรียกร้องอเมริกาคว่ำบาตร MOGE ชี้เร่งตัดช่องทางรายได้กองทัพที่ได้จากก๊าซ ไทยไฟฟ้าล้นไม่จำเป็นต้องพึงก๊าซพม่า”