20 พฤษภาคม 64 (กรุงเทพฯ) คณะทำงานติดตามความรับผิดชอบของการลงทุนข้ามพรมแดน (ETOs Watch) เปิดเผยจดหมายเปิดผนึกซึ่งส่งถึง ปตท และ ปตท.สผ. เพื่อให้ระงับและงดส่งจ่ายเงินจากก๊าซธรรมชาติให้กับกองทัพเมียนมา เพื่อยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเมียนมา 76 องค์กรพัฒนาเอกชน ภาคประชาสังคมด้านธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ทั้งไทย เมียนมา และนานาชาติร่วมลงชื่อ ชี้ชัดเงินค่าก๊าซธรรมชาติอยู่ในการควบคุมของกองทัพ หวั่นส่งเสริมการประหัตประหารประชาชน
นายธีระชัย ศาลเจริญกิจถาวร ผู้ประสานงานคณะทำงาน กล่าวว่า “เราเรียกร้องให้ ปตท.งดจ่ายเงินให้กับบริษัทรัฐวิสาหกิจที่ดูแลเรื่องน้ำมันและก๊าซของพม่าในขณะเพราะแม้ว่าโดยหลักการแล้วบริษัทนี้จะเป็นของรัฐบาลเมียนมา แต่การควบคุมอำนาจในการบริหารหน่วยงานแบบเบ็ดเสร็จของคณะรัฐประหารเมียนมาทำให้บริษัทรัฐวิสาหกิจซึ่งควรจะมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งของประชาชนเป็นเจ้าของนั้นไม่อาจรับประกันได้อีกต่อไปว่ารายได้จาก ปตท ในฐานะผู้ซื้อตามสัญญาจะถูกนำไปใช้จ่ายเพื่อกิจการพลเรือนและผลประโยชน์ต่อประชาชนชาวเมียนมาอย่างแท้จริง ความไม่โปร่งใสและการใช้อำนาจฉ้อฉล ทั้งยังดิบเถื่อนของกองทัพเมียนมาต่อประชาชนในประเทศตนเองที่เป็นอยู่ในขณะนี้นั้นทำให้เรากังวลเป็นอย่างมากว่าเงินรายได้ในส่วนนี้จะถูกแปรเป็นอาวุธหรือกระสุนปืนที่สาดใส่แก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์”
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการตัวแทนสภาแห่งสหภาพ หรือ Committee Representing Pyidaungsu Hluttaw: CRPH ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนชาวเมียนมา ได้ส่งหนังสือไปยังกลุ่มธุรกิจหรือรัฐวิสาหกิจจากต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในประเทศโดยเฉพาะในกิจการการลงทุนด้านการค้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ เรียกร้องให้ระงับกิจการการลงทุนและตัดสายสัมพันธ์ในการทำธุรกิจร่วมกับกองทัพเมียนมาในทันที อีกทั้งเรียกร้องให้บริษัทที่ร่วมทุนนำรายได้ที่ต้องจ่ายไปยังบริษัท Myanmar Oil and Gas Enterprise (MOGE) ซึ่งเป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจที่ขณะนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของคณะรัฐประหารเผด็จการกองทัพเมียนมาไปไว้ยังบัญชีที่ได้รับการปกป้อง (protected/escrow account) เนื่องจากพวกเขาเกรงว่ารายได้จากการประกอบธุรกิจนี้จะเป็นเงินที่ป้อนเข้าสู่กระเป๋าของกองทัพเมียนมาโดยตรง โดยหนังสือดังกล่าวมีข้อเรียกร้องที่อ้างไปถึง “บริษัท ปตท. สผ. จำกัด (มหาชน)” ของประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ร่วมลงทุนในโครงการท่อส่งก๊าซยาดานา โครงการท่อส่งก๊าซเยตากุน และเป็นผู้ดำเนินโครงการท่อส่งก๊าซซอติก้าโดยตรง ซึ่งก๊าซที่ผลิตได้ส่วนใหญ่ถูกส่งเข้ามายังประเทศไทย โดยมีบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับซื้อก๊าซดังกล่าวอีกด้วย ต่อมา รัฐบาลญี่ปุ่นในฐานะผู้ให้เงินกู้รายใหญ่ที่สุดของประเทศเมียนมาได้ประกาศระงับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินครั้งใหม่แก่เมียนมา รวมทั้งสหรัฐอเมริกาเองก็มีมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของกองทัพเมียนมา
“รัฐบาลและธุรกิจทั่วโลกกำลังแสดงออกถึงการไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารที่ฆ่าชีวิตประชาชนไปแล้วเกือบ 800 ราย เราอยากให้ผุ้ลงทุนจากประเทศไทยเคารพข้อเรียกร้องของประชาชาชาวเมียนมา อีกทั้งเรายังเชื่อว่า การระงับส่งเงินรายได้นี้จะยังเป็นการปกป้องชื่อเสียงของบริษัทฯ สัญชาติไทยให้พ้นจากความเกี่ยวข้องกับคณะเผด็จการรัฐประหาร นับเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศไทยในระยะยาวและเป็นการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับประชาชนชาวเมียนมาด้วย และเราเชื่อว่าธุรกิจที่ดีจะต้องมีคุณสมบัติที่สำคัญคือต้องยืนอยู่ข้างหลักสิทธิมนุษยชน”
ข้อมูลในจดหมาย ระบุว่า “ในปี 2017 – 2018 ปตท. จ่ายเงินกว่า 615 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับบริษัท MOGE โดยภาพรวมแล้วรายได้จากก๊าซคาดว่าจะมีส่วนช่วยในการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของพม่าถึง 50% และปตท. ให้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการอยู่รอดของผู้ก่อการรัฐประหาร โดยจัดเก็บจากบริษัท ปตท. สผ. เฉพาะโครงการซอติก้าเพียงแห่งเดียวในฐานะผู้ลงทุนและผู้พัฒนาโครงการสัญชาติไทยได้กว่า 55.54 พันล้านจ๊าต หรือราว 41.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ”
โดยก่อนหน้านี้ คณะทำงานฯ ได้ส่งจดหมายถึงหลายหน่วยงานภาครัฐขอให้พิจารณาระงับโครงการสนับสนุนทางการเงินแก่เมียนมา เช่น สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือ สพพ. ซึ่งจะเป็นผู้ให้เงินกู้ในโครงการถนนสองช่องทางจากพุน้ำร้อน ถึงเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย จำนวน 4,500 ล้านบาท โดย สพพ. ตอบกลับมาว่า พร้อมที่จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือทางการเงินและวิชาการแก่ประเทศเพื่อนบ้านภายใต้ขอบเขตบทบาทอำนาจอย่างเต็มที่
“เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทางบริษัทฯ จะตอบกลับจดหมายที่ระบุข้อกังวลและข้อเรียกร้องของพวกเรา เราไม่ได้เรียกร้องอะไรที่มากเกินไปและคิดว่ามีความเป็นไปได้มากที่สุด เราต้องร่วมกันทำให้แน่ใจว่าเงินรายได้ที่ส่งไปจะต้องทำให้ประชาชนชาวเมียนมาได้ประโยชน์ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลพลเรือนในอนาคตที่ยึดถือหลักการประชาธิปไตย” นายธีระชัย กล่าว
อ่านจดหมายเปิดผนึกได้ที่นี่
0 comments on “76 ภาคประชาสังคม ไทย-เทศ ร่อนจดหมายเปิดผนึกถึง ปตท – หยุดเป็นท่อน้ำเลี้ยงทหารพม่า”