9 สิงหาคม วันสากลว่าด้วยชนพื้นเมืองดั้งเดิมของโลก ในวันนี้ ชุมชนพื้นเมืองและภาคประชาสังคมจากลุ่มน้ำตะนาวศรี ภาคใต้ของพม่า เผยแพร่รายงานใหม่สองฉบับ เพื่อนำเสนอความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนพื้นเมือง แม่น้ำตะนาวศรี และความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ และปัญหาท้าทายใหม่ อันเป็นผลมาจากโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำจำนวนมาก
รายงานชิ้นแรกคือ เหนือกว่าแม่น้ำ: เอาชนะความท้าทายด้วยภูมิปัญญาด้านนิเวศของชนพื้นเมือง (Beyond the River: Overcoming Challenges with Indigenous Ecological Knowledge) จัดทำโดยเครือข่ายชนเผ่าพื้นเมือง TRIPNET และรายงานอีกชิ้นคือ ปิดกั้นเส้นเลือด: ชุมชนริมฝั่งแม่น้ำตะนาวศรีกลัวผลกระทบจากเขื่อนขนาดใหญ่ (Blocking a Bloodline: Communities Along the Tanintharyi River Fear the Impacts of Large-Scale Dams) จัดทำโดยกลุ่มอนุรักษ์ Candle Light, Southern Youth และ Tarkapaw ซึ่งมีเนื้อหาเรียกร้องให้เคารพพื้นที่ ภูมิปัญญาชาวบ้าน และจารีตประเพณีของชุมชนพื้นเมืองและให้ยุติการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่
รายงาน “เหนือกว่าแม่น้ำ” นำเสนอข้อมูลของพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำ 115 ชนิดที่นำเสนอเป็นผลมาจากการวิจัยภูมิปัญญาชาวบ้านเป็นการศึกษาที่ใช้เวลา 4 ปีโดยกลุ่มชาวกะเหรี่ยงที่อาศัยอยู่ในลุ่มน้ำตะนาวศรี ภาคใต้ของพม่า งานวิจัยนี้มีชาวบ้านเป็นแกนนำ พวกเขาร่วมกันเก็บข้อมูลโดยใช้ภูมิปัญญาทางนิเวศ และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติตามแนวจารีตประเพณีดั้งเดิม โดยกลุ่ม TRIPNET เป็นผู้ประสานงานให้เกิดการวิจัยแบบภูมิปัญญาชาวบ้านร่วมกับชุมชนในลุ่มน้ำตะนาวศรีตั้งแต่ปี 2557 เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน
“ชาวบ้านต่างมีทักษะในการจัดการทรัพยากรทางธรรมชาติ และมีองค์ความรู้ที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ ข้อค้นพบจากงานวิจัยในรายงาน ชี้ให้เห็นความสัมพันธ์เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดระหว่างชุมชนในพื้นที่กับแม่น้ำตะนาวศรี” ซอว์ อัลเบิร์ต ผู้ประสานงานโครงการของ TRIPNET กล่าว
เราจึงต้องตระหนักถึงความสำคัญของภูมิปัญญาทางนิเวศที่ลึกซึ้งของชาวบ้าน ที่อาศัยอยู่ในลุ่มน้ำตะนาวศรี และนำมาใช้ประโยชน์ เพื่อการอนุรักษ์และการตัดสินใจเกี่ยวกับการพัฒนาไฟฟ้าพลังน้ำในลุ่มน้ำแห่งนี้ รายงาน เหนือกว่าแม่น้ำ สะท้อนให้เห็นความหลากหลายทางชีวภาพของแม่น้ำตะนาวศรี ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิตของชาวบ้าน และชี้ให้เห็นความเสียหายที่ไม่อาจแก้ไขได้จากการสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำในลุ่มน้ำแห่งนี้
“ชนพื้นเมืองกำลังปกป้องแม่น้ำและทรัพยากรธรรมชาติ เราจำเป็นต้องมีเวทีเพื่อชี้ให้เห็นแรงจูงใจของพวกเขา และแลกเปลี่ยนความสำเร็จของการทำงานระดับชุมชนเพื่อการอนุรักษ์เหล่านี้” ซอว์ แฟรงกี้ อาบรู ผู้อำนวยการ TRIPNET กล่าว
การทำวิจัยอย่างมีส่วนร่วมโดยภูมิปัญญาชาวบ้านครั้งนี้ นำไปสู่การสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งของชุมชนเพื่อคุ้มครองพื้นที่อนุรักษ์สัตว์น้ำตลอดทั่วภูมิภาคตะนาวศรี กิจกรรมอนุรักษ์ระดับชุมชนเหล่านี้เป็นต้นแบบของการพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ระดับชุมชนของชนพื้นเมือง (Indigenous and Community Conserved Areas – ICCAs) ในพม่า
“พวกเราที่เป็นชาวบ้านต้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจใด ๆ เกี่ยวกับที่ดินของเรา เนื่องจากเรามีองค์ความรู้และความสามารถในการจัดการทรัพยากรของเราเอง” อูเยอ่อง สมาชิกกลุ่มชนพื้นเมืองและธรรมชาติ กล่าว และเสริมว่า “การดำเนินงานเพื่อคุ้มครองพันธุ์สัตว์น้ำของเรา ช่วยหนุนเสริมการคุ้มครองระบบนิเวศโดยรวมของแม่น้ำตะนาวศรี”
ผลกระทบร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นจากโครงการเขื่อนขนาด 1,040เมกะวัตต์ ที่จะสร้างกั้นแม่น้ำตะนาวศรี เป็นข้อมูลที่นำเสนอในรายงาน ปิดกั้นเส้นเลือด: ชุมชนริมฝั่งแม่น้ำตะนาวศรีกลัวผลกระทบจากเขื่อนขนาดใหญ่ บริษัทจีเอ็มเอส GMS ของคนไทย มีโครงการสร้างเขื่อนริมฝั่งน้ำแห่งนี้และอีก 17 เขื่อน เป็นโครงการที่จัดทำขึ้นโดยไม่มีการขอความยินยอมจากชนเผ่าพื้นเมือง และจะคุกคามต่อแหล่งทรัพยากรหลักทั้งน้ำ อาหาร และการขนส่งของชุมชน
“เราพบว่าการสร้างเขื่อนแห่งนี้อาจส่งผลให้ชาวบ้านมากถึง 7,000 คนจาก 32 หมู่บ้านที่อยู่ตอนเหนือของแม่น้ำตะนาวศรี ต้องอพยพออกจากพื้นที่” นางสาวนอพอเซวา ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์ท้องถิ่น Candle Light กล่าว “เขื่อนแห่งนี้ยังจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อชีวิตและอาชีพของชาวบ้านกว่า 23,000 คนซึ่งอาศัยอยู่ด้านท้ายน้ำด้วย”
รายงานชิ้นนี้เป็นผลจากการสำรวจความเห็นชาวบ้านกว่า 1,200 คน ที่อาศัยริมฝั่งแม่น้ำตะนาวศรี เน้นให้เห็นความสำคัญของแม่น้ำสายนี้ต่อการดำรงชีวิตของชุมชน การเข้าถึงแหล่งน้ำ การขนส่ง และวัฒนธรรมประเพณี และชี้ให้เห็นผลกระทบจากโครงการเขื่อนต่อชีวิตของชุมชนพื้นเมือง ป่าไม้ และความหลากหลายทางชีวภาพ และอนาคตของสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค
“แม่น้ำสายนี้เป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงชีวิตชนพื้นเมืองในภูมิภาคตะนาวศรี เราได้รับอาหาร น้ำ และสามารถเดินทางขนส่งได้เพราะแม่น้ำสายนี้ หากไม่มีแม่น้ำ เราไม่อาจรอดชีวิตได้” ซอว์ถั่นเน จากหมู่บ้านทาราเบตะวันออกกล่าว “หากมีการสร้างโครงการเขื่อนขนาดใหญ่ในพื้นที่ของเรา จะทำให้เกิดการสูญสิ้นของวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และอัตลักษณ์ของเรา” ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์กล่าว
อนึ่งแม่น้ำตะนาวศรี ไหลขนานไปกับเทือกเขาตะนาวศรี ไล่ตั้งแต่จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี ไปจนถึง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเส้นทางการค้าสำคัญในยุคโบราณ ที่ส่งสินค้าจากทะเลอันดามันมาอ่าวไทย โดยไม่ต้องไปอ้อมช่องแคบมะละกา
0 comments on “เปิดรายงานชุมชนพื้นเมืองแม่น้ำตะนาวศรี รับวันสากลว่าด้วยชนพื้นเมืองดั้งเดิมของโลก”